หม่าม้าขาเม้าท์ :)
  • Home
    • Version 1
  • Download
  • Social
  • Features
    • Lifestyle
    • Sports Group
      • Category 1
      • Category 2
      • Category 3
      • Category 4
      • Category 5
    • Sub Menu 3
    • Sub Menu 4
  • Contact Us


สวัสดีค่าา...ทุกคน วันนี้หม่าม้าขาเม้าท์มาพาทุกคนไปดู+รู้จักวิธีการจี้ติ่งเนื้อออกแบบไม่ต้องกลัวเจ็บที่ AES Clinic กันค่ะ ซึ่งคนที่จะมาจี้ติ่งเนื้อโชว์ในวันนี้คือ 'ปะป๊าอาร์ต' นั่นเองงง

 


ก่อนอื่นขอเล่าให้ฟังก่อนว่าปะป๊าเนี่ย เค้ามีติ่งเนื้อใต้รักแร้ติดตัวมาอยู่นานม๊ากกกกก... ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กแล้ว แล้วมันก็ใหญ่ขึ้นๆทุกที หม่าม้าเคยชวนเค้าไปตัดอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ยอมไปสักที (สงสัยจะกลัวเจ็บ 😂) แล้วบางทีเค้าก็จะชอบเกาไปโดนจนมันเป็นแผลบ้าง ชอบดึงให้เรากับลูกหวาดเสียวเล่นบ้าง เพราะมันเริ่มใหญ่มาก..จนล่าสุดนี่ใหญ่กว่าหัวนมอีกอ่ะ555555

 


ผู้จัดการส่วนตัวอย่างเรา เห็นแล้วก็รำคาญแทน เลยนั่งหาข้อมูลการกำจัดติ่งเนื้อจนได้ค้นพบว่าเดี๋ยวนี้เค้าจี้ติ่งเนื้อออกโดยใช้เลเซอร์ (CO2 Laser) กันแล้วนะเออ ไม่ได้ใช้ไฟจี้ออกอย่างที่เราเข้าใจ (รู้สึกตัวเองล้าสมัยมากอ่ะ 😂😂)

 


ซึ่งข้อดีของการใช้เลเซอร์ในการตัดติ่งเนื้อก็คือความแม่นยำนั่นเองค่ะ เนื่องจากเลเซอร์มีความละเอียดและแม่นยำสูงมาก จึงสามารถเลือกตัดเฉพาะส่วนที่ต้องการได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ นอกจากนี้ นางยังมีผลในการหยุดเลือดบริเวณที่ตัดด้วย จึงทำให้แผลมีขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย และมีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยนั่นเองค่ะ

 


หลังจากหาข้อมูลเรื่องวิธีการจบไป ก็มาหาข้อมูลกันต่อว่าจะไปทำที่ไหนดี ที่ดูน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ว่าคนที่มาทำหัตการให้เราคือคุณหมอจริงๆ ไม่ใช่คุยกับหมอเสร็จ สุดท้าย..เอ่าา!! พยาบาลทำให้เฉยเลยงี้ จนในที่สุด หม่าม้าก็มาสะดุดตาอยู่ที่ AES Clinic เพราะหม่าม้าเห็นมีรีวิวเยอะมากก และทุกอย่างคุณหมอเป็นคนทำเองทุกเคสเลย เราก็เลยโอเคที่นี่แหละ!! ก็เลยแอดไลน์นัดวันกับคุณหมอทันที

 


AES Clinic ตั้งอยู่ใน The JAS รามอินทรา ชั้น 2 ค่ะ.... ขึ้นบันไดเลื่อนตรงทางเข้าด้านหน้ามาปุ๊บ คลินิกอยู่ทางซ้ายมือเล้ยย หาง่ายมากๆ


วันนี้อาโปขอติดตามมาดูปะป๊าด้วยนะครับ :)

 

พอมาถึงหน้าคลินิกก็จะมีคุณพยาบาลคนสวยมาคอยต้อนรับ และยืนวัดไข้พวกเรา 3 คนก่อนเข้าไปข้างในค่ะ



บรรยากาศข้างในค่อนข้างโล่งโปร่ง แม้จะเป็นคลินิกเล็กๆ แต่ดูเนี๊ยบและสะอาดมากๆเลยค่ะ


มาถึงเราก็มาลงทะเบียนตรงเคาน์เตอร์นี้ก่อนเลย




จากนั้นเราก็นั่งรอคิวกันสักพัก ระหว่างนี้อาโปตัวแสบเลยขอโพสต์ท่ารอสักหน่อย






ท่าทางอาโปดูไม่ค่อยอยากจะถ่ายรูปแหละ... หม่าม้าดูออก 😅




 

นั่งรอไม่นานก็ถึงคิวเราแล้วววว... เย่!!


ระหว่างคุยกับคุณหมอ คุณหมอก็ให้คำแนะนำดีมาก อธิบายวิธีการและขั้นตอนในการทำ รวมถึงการปฏิบัติตัวหลังจากทำเสร็จ



 

 

เห็นมั๊ยย.. ติ่งเนื้อใหญ่ม้ากก อันไหนติ่งเนื้อ อันไหนหัวนม?? 🤔


 

จากนั้น คุณหมอก็ให้ปะป๊าก็เข้าไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ารอที่ห้องเลเซอร์



ขั้นตอนหลังจากนี้ คุณหมอก็จะฉีดยาชาให้ (ถ้าติ่งเนื้อเล็กๆ คุณหมอจะใช้วิธีการทายาชาให้นะคะ ไม่ต้องฉีด) แล้วก็จี้ติ่งเนื้อออก... หม่าม้ากับอาโปก็เลยออกมานั่งรอกันข้างหน้า

 

นั่งรออยู่แป๊บเดียว... แบบแป๊บบบเดียวจริงๆอ่ะ ไม่ถึง 5 นาที เสร็จแล้ว!!

 

ขอแอบเข้าไปดูแผลหน่อยนะ :)




คือดีงามมากกก.. แผลเล็กนิดเดียวเอง ไม่มีเลือดไหลเลยด้วย

จากนั้น คุณพยาบาลก็จะมาทายา และแปะพลาสเตอร์เล็กๆไว้ให้ เป็นอันเสร็จ 😁

 

ซึ่งการปฏิบัติตัวหลังจากนี้ คุณหมอจะให้ขี้ผึ้งมาทา..ก็ทาไปทุกวัน

ห้ามโดนน้ำ 3 วัน (แต่ของปะป๊า คุณหมออนุญาตให้อาบน้ำได้ อาบเสร็จแล้วซับแผลให้แห้ง)

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เหงื่อออกมาก 2 สัปดาห์

หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 🌞

ห้ามแกะสะเก็ดแผล.... ประมาณนี้

 

 

หลังจากที่สอบถามปะป๊าว่าเป็นยังไงบ้างตอนทำ?? ปะป๊าบอกไม่เจ็บเลย มีนิดนึงตอนฉีดยาชาแค่นั้น

หลังจากหายชาก็ไม่เจ็บ แต่มีรู้สึกเสียวๆแบบรู้สึกว่าเป็นแผลนิดนึง

 

ตอนกลับบ้านมาก็มีเลือดซึมติดพลาสเตอร์มานิดหน่อย



 

อาโป ผู้ทายาให้ปะป๊าในทุกๆวัน ❤



 

 

สุดท้ายนี้ ใครอยากจะตามหม่าม้าไปทำบ้างก็จองคิวกับคุณหมอได้เลยนะคะ

ที่นี่คุณหมอใจดี พยาบาลน่ารัก บริการดีเริ่ด... ที่สำคัญราคาดีงามมากเว่อร์!! ❤

 

และนอกจากจี้ติ่งเนื้อแล้ว คุุณหมอยังให้บริการเสริมความงามอื่นๆอีกด้วยน้าาา... ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เลเซอร์กำจัดขน กำจัดไขมัน ฉีดสิว ปลูกผม etc. รวมไปถึงศัลยกรรมอย่าง เสริมจมูก ทำตา ทำคาง คุณหมอก็ทำด้วยเช่นกัน เรียกว่ามาที่นี่สวยครบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียวค่ะ 

 

และถ้าบอกว่ามาจาก 'เพจหม่าม้าขาเม้าท์' คุณหมอจะมีของแถม หรือส่วนลดพิเศษให้ด้วยน๊าา

 

 

ทางไปติดต่อคุณหมอ 👇👇

AES Clinic ชั้น 2 The Jas รามอินทรา

Tel : 095-254-5364, 02-011-0963

Line ID : @aesclinic  หรือกด แอดไลน์ ตรงนี้ได้เลยค่ะ

Inbox : https://m.me/aesclinic

IG : https://www.instagram.com/aesclinic

Website : www.aesclinic.com

FB : https://www.facebook.com/aesclinic/





 


ใครมีปัญหาผมร่วงรัวๆหลังคลอดยกมือขึ้น✋✋

หม่าม้าเป็นคนนึงค่ะ ที่พอหลังคลอดอาโปได้สัก 5-6 เดือนปุ๊บ ผมก็ร่วงหนักมากกกก..

จากคนที่ผมหนาสุดๆ (หนาจนเวลาไปตัดผมทีนี่ช่างชมปนบ่นทุกคน😅) กลายเป็นผมร่วงจนขาดความมั่นใจไปเลยค่ะ แล้วก็ร่วงอยู่หลายเดือนซะด้วย.. กว่าจะรู้สึกว่ามันเริ่มกลับมาปกตินี่ถึงกับเครียดไปพักนึงเลยทีเดียว

 

ต้องบอกก่อนวา่ จริงๆแล้วอาการผมร่วงหลังคลอดลูกนี่เป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะ 'ฮอร์โมนเอสโตรเจน' ที่มีมากช่วงตั้งครรภ์นั้น ลดลงอย่างรวดเร็วทันทีหลังคลอด ทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนซึ่งส่งผลให้ผมร่วงนั่นเองค่ะ

 

วันนี้ หม่าม้าเลยจะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ เป็นวิธีแก้ผมร่วง เพื่อหยุดผมร่วงหลังคลอด แม่ๆจะได้เอาเวลาไปเลี้ยงเจ้าตัวเล็กให้เต็มที่ ไม่ต้องมากังวลเรื่องผมแบบหม่าม้ากันค่ะ❤

 

  1. ทานอาหารที่มีประโยชน์

แน่นอนค่ะว่า นอกจากฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดลย์แล้ว อาหารก็มีส่วนสำคัญมากๆเช่นกัน เพราะฉะนั้น มาทานอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมของเราให้กลับมาแข็งแรงทนทานได้ตามเดิมกันเถอะค่ะ ซึ่งอาหารที่ว่าได้แก่ อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ไข่แดง ผักใบเขียว , อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูง เช่น เนื้อสัตว์ ตับ หอยนางรม ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวโพด , และอาหารที่มีไบโอติน เช่น ตับ ไต เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว ข้าวกล้อง ข้าวโพด ไข่ นม เนย โยเกิร์ต เป็นต้นค่ะ  หรือถ้าใครคิดว่ากินให้หมดตามนี้ไม่ไหว จะหาวิตามาินมาทานเสริมก็ได้เช่นกันค่ะ

 

  1. หยุดทำร้ายเส้นผมด้วยความร้อน และสารเคมี

เอาง่ายๆคือช่วงนี้ให้งดทำสวยไปก่อนเลยดีกว่าค่ะ😅 เพราะการไดร์ผมด้วยความร้อน ม้วนผม หนีบผม ทำสีผม ดััด ยืด บลาๆๆ นั้น ล้วนทำให้เส้นผมยิ่งอ่อนแอ และหลุดร่วงง่ายขึ้นไปอีกนั่นเองค่ะ😫 เพราะฉะนั้น ช่วงนี้คือสระผมเสร็จแล้ว ก็ไปนั่งหน้าพัดลมให้ลมโกรกผมกันโลดดด555

 

  1. ลองเปลี่ยนสไตล์เป็นคุณแม่ผมสั้นดูก็ดีนะ

พอผมสั้น ผมก็ต้องการสารอาหารน้อยลงเลยอาจจะทำให้หลุดร่วงได้น้อยกว่าค่ะ นอกจากนี้ การตัดผมสั้นยังทำให้การดูแลง่ายขึ้น ลดปัญหาผมแตกปลาย ผมพันกัน ลดการกระตุกเส้นผมขณะหวี (ซึ่งแน่นอนว่าผมก็หลุดร่วงน้อยลงด้วย) ที่สำคัญลูกดึงเล่นยากขึ้นด้วยค่ะ🤣🤣

 

  1. ไม่ทำตัวเครียด

หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าความเครียดก็ทำให้ผมร่วงได้นะคะ หม่าม้าเข้าใจแหละ ช่วงมีลูก(โดยเฉพาะลูกคนแรก) มักจะมีเรื่องเครียดที่เราไม่รู้ตัวเป็นธรรมดา ไหนจะต้องปรับตัวกับเจ้าตัวเล็ก ไหนจะอดนอน นมก็ไม่มาสักที แล้วไหนจะต้องห่วงงานที่ทำอีก โอ๊ยยยย.. มันวุ่นวายไปหมด แต่ๆๆ ความเครียดเหล่านี้แหละที่อาจส่งผลกระทบให้ผมร่วงได้ (รวมไปถึงอารมณ์ของลูก และน้ำนมของเราเราด้วยเช่นกัน) ดังนั้น พยายามฝึกปล่อยวาง หรือหากิจกรรมอะไรทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดบ้างนะคะ ส่วนตัวหม่าม้านี้ก็นั่งดูซีรี่ย์เพลินๆกันไป ขณะให้นมลูก และใช้ให้คุณสามีทำงานบ้านแทน😜 ไม่งั้นนมไม่มา เมียผมร่วง ลูกงอแงไม่รู้ด้วยนะเออ

 

  1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

ข้อนี้สุดท้ายนี้สำคัญมากๆเลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ผมเราต้องเจอเป็นประจำ ดังนั้น จะทำร้ายหรือช่วยบำรุงก็อยู่ที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เลย ซึ่งจำเป็นมากๆที่จะต้องอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ยิ่งถ้าสามารถช่วยดูแลเรื่องลดการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยให้ผมใหม่งอกเร็วขึ้นได้จะยิ่งเพอร์เฟคมากๆเลยค่ะ🤩

 

 

ส่วนตัวของหม่าม้านั้น หม่าม้าเลือกใช้ ZANE Hair Tonic คู่กับตัวแชมพูของเค้าค่ะ เจ้าตัวนี้จะเป็นสเปรย์ที่ใช้ฉีดพ่นบนหนังศีรษะได้เลย ซึ่งความดีงามคือ ส่วนผสมหลักของเค้าที่มีทั้ง Anagain ที่สกัดมาจากธรรมชาติ 100% เป็นตัวช่วยฟื้นฟูสภาพผม นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับรางวัลการันตี Advance Ingredient Award 2014 จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บวกกับคาเฟอีนที่มีอนุพันธ์ขนาดเล็ก และ Hi-Cleara ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ทำให้ได้ประสิทธิภาพตามที่เค้าเคลมคือทั้งช่วยลดการหลุดร่วง และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมไปพร้อมๆกัน...

 


หม่าม้าจัดมาชุดใหญ่เลย ทั้งแชมพู ทั้งโทนิค แล้วก็ที่ทาขนคิ้วด้วย ตามสไตล์คนคิ้วบาง แฮ่!!😋

 

ซึ่งหลังจากที่ใช้ หม่าม้าขอเรียกว่ามันเป็น 'โทนิคปลูกผม' เลยละกันค่ะ เพราะหม่าม้าฉีดไปได้ 2 อาทิตย์ ผมใหม่งอกชี้โด่ชี้เด่่ขึ้นมาเต็มเลย😎 โดยหม่าม้าฉีดเจ้าเซน แฮร์ โทนิคนี่ทุกวัน วันละ 2 รอบ เช้า-เย็นเลย... คือไม่สระผมก็ฉีดอ่ะ ฉีดแล้วก็นวดๆคลึงๆหนังศีรษะไปด้วย ซึ่งการนวดศีรษะนี่ก็จะช่วยกระตุ้นเส้นเลือดที่หนังศีรษะ ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น แล้วก็ทำให้รากผมของเราแข็งแรงขึ้นได้ด้วยน้าา💪

 


ฉีดลงไปบนหนังศีรษะแบบนี้เลย แล้วก็นวดๆคลึงๆให้ทั่ว

 


หลังจากใช้ เซน แฮร์ โทนิค คู่กับแชมพูของเค้า..ผมใหม่งอกเต็มเลย เย่!!


 

ช่วงนี้มีใครติดซีรี่ย์ "It's Okay To Not Be Okay" เหมือนหม่าม้าบ้างยกมือขึ้นน✋✋

คืนนี้ตอนสุดท้ายแล้วน้าาา...

.

.

เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่หม่าม้าชอบมากๆๆๆเลยค่ะ เก็บเข้าลิสต์เลยทีเดียว😁


ด้วยเนื้อเรื่อง และการเก็บรายละเอียด การใช้สัญลักษณ์ต่างๆในเรื่อง ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์มากๆทีเดียว


นอกจากนี้แล้ว อีกหนึ่งอย่างในเรื่องที่หม่าม้าชอบมากคือนิทานของนางเอก 'โกมุนยอง' แต่ละเรื่องที่นางแต่งมานั้นอ่านแล้วมันจุกๆอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากเชื่อว่านางเป็นคนแต่งนิทานเด็กเลยอ่ะ... เหมือนแต่งมาเพื่อสอนใจผู้ใหญ่ หรือ พ่อแม่ อย่างเรามากกว่า

.

.

ไหนๆ คืนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายแล้ว หม่าม้าเลยขอรวบรวม "4 นิทานสอนใจ (พ่อแม่)" ของ'โกมุนยอง'มาให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ... เผื่อใครไม่ได้ดูซีรี่ย์ หรือไม่ใช่สายเกาหลี😁


คือหม่าม้าอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านนิทานของนางเอกดูจริงๆ แล้วลองสะท้อนถึงตัวเราเอง... หม่าม้าว่าแต่ละเรื่องมันกระตุกต่อมอะไรบางอย่างอยู่มากทีเดียว



ใต้ภาพ.. หม่าม้าจะโพสต์เป็นเนื้องเรื่องล้วนๆนะคะ (คัดมาจากซับในNetflix) ไม่ใส่ความคิดเห็นใดๆ จะได้ไม่เป็นการตีกรอบความคิดกันเนอะ.. อ่านจบแล้วใครจุกเรื่องไหนมาเม้ามอยกันต่อได้ใน Facebook Page ได้นะคะ


[ เรื่องที่ 1 ]

"หนุ่มน้อยผู้โตมาด้วยฝันร้าย - The Boy Who Fed On Nightmares"

 

วันนี้หนุ่มน้อยตื่นเพราะฝันร้ายที่น่าหวาดกลัวเช่นเคย เพราะความทรงจำในอดีตที่อยากลืมมาหลอกหลอนในฝันทุกคืน หนุ่มน้อยเลยต้องทุกข์ทรมานไม่สิ้นสุด

 

หนุ่มน้อยกลัวการนอนหลับอย่างยิ่ง วันหนึ่งเขาจึงไปหาแม่มดแล้วขอพร

 

"ท่านแม่มดได้โปรดเถอะ เพื่อไม่ให้ผมฝันร้ายอีก ท่านช่วยลบความทรงจำเลวร้ายทั้งหมดในหัวผมที แล้วผมจะมอบทุกอย่างที่ท่านต้องการให้"

 

.....

.....

......

 

วันเวลาผ่านไปหนุ่มน้อยโตเป็นผู้ใหญ่ เขาไม่ฝันร้ายอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด เขาไม่มีความสุขเลยสักนิด...


คืนที่จันทร์เต็มดวงสีเลือดลอยเด่น แม่มดปรากฏตัวอีกครั้ง เพื่อรับสิ่งตอบแทนจากพรที่ให้ไป

 

เขาตะโกนใส่แม่มดด้วยเสียงของผู้ใหญ่ที่คับแค้นใจ

 

"ลบความทรงจำเลวร้ายของผมไปหมดแล้ว แต่ทำไมผมยังไม่มีความสุขอีก"

 

จากนั้นแม่มดก็เอาวิญญาณของเขาไปตามสัญญา แล้วพูดว่า

 

"ความทรงจำที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ความทรงจำที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง ความทรงจำที่ทำให้คนอื่นและตัวเองเจ็บปวด ความทรงจำของการถูกทอดทิ้ง มีแค่คนที่เก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในใจและใช้ชีวิตต่อไป ที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มุ่งมั่นมากขึ้นและสุขุมกว่าเดิมได้

 

ความสุขน่ะมีแต่คนเหล่านั้นที่จะได้มันไปครอง เพราะฉะนั้น อย่าลืม.. อย่าลืมแล้วผ่านมันไปให้ได้ ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ เธอก็จะเป็นแค่เด็กน้อยที่จิตวิญญาณไม่เติบโต"





สวัสดีค่าา.. ว่าที่คุณแม่มือใหม่ทุกคน "หม่าม้าขาเม้าท์" วันนี้ขอว่าด้วยเรื่องของการทำลูกค่ะ...เอ๊ะ!! มันอะไรยังงัย จะทำลูกถึงกับต้องมี How to กันเลยหรอเนี่ย??

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ "ฝ้ายค่ะ" หม่าม้าชื่อฝ้าย ไม่ได้มากับโบว์ และ ไม่ได้มากับเจนค่ะ😂😂 แต่มากับ "อาโป" ลูกชาย 1 คนถ้วนของหม่าม้าเอง.. คนนี้คือทำมาด้วยความตั้งใจสุดๆ ฝ้ายเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังแบบละเอียดยิบขนาดนี้มาก่อน😍

คือจริงๆอ่ะจะลูกสาว หรือลูกชายเราก็ได้หมดนะ ไม่ได้มีความคิดว่าแบบอยากได้ลูกชายไว้สืบทอดตระกูลอะไรแบบนี้ แต่ว่าตอนก่อนมีลูกเราก็คุยกันกับสามีว่าถ้าเลือกเพศลูกได้เธออยากได้ลูกชาย หรือ ลูกสาว สามีเราก็บอกว่าเค้าชอบเด็กผู้ชายนะแต่ก็แล้วแต่..ได้หมด แล้วส่วนตัวเราก็เออ.. เราก็ชอบเด็กผู้ชายเหมือนกัน คือด้วยความที่เราเป็นคนลุยๆ ไม่ใช่สายหวาน ไม่มุ้งมิ้ง เราเลยชอบเล่นกับเด็กผู้ชายมากกว่า (กลัวได้ลูกสาวมาแล้วลูกจะกระด้างเกินไปแบบเรา🤣🤣)

ดังนั้น หลังจากแต่งงานกันมา 2 ปี แล้วสามีเราก็ Say Yes ที่จะเปิดอู่ปุ๊บ.. นี่เลยหาข้อมูลใหญ่เลยจ้าา.. ว่าจะทำไงให้ได้ลูกชาย มันมีวิธีธรรมชาติแบบไหนบ้างที่มันจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นการมีลูกชายให้เราได้




ก่อนจะไปถึงการเลือกเพศลูก เรามาพูดถึงการเตรียมตัวให้พร้อมตั้งครรภ์ก่อนดีกว่า... หลายคนบอกแหมมมพี่ ก็ป๊าบๆๆ เดี๋ยวก้อป่องออกมาเองแหละ😆555 คือจะบอกว่าด้วยวัยเราด้วย แล้วก็ด้วยอะไรหลายอย่างสมัยนี้อ่ะคนมันไม่ได้ท้องกันง่ายๆขนาดนั้นเนอะ คือเรามีเพื่อน มีญาติที่เค้าอยากมีลูกแล้วก็ไม่มาสักที หรือมาแล้วก็หลุดอะไรอย่างงี้ เพราะฉะนั้น ก่อนเรามีลูกเราก็เลยเตรียมตัวทุกวิถีทาง รวมถึงดูปีเกิดลูกด้วยว่าให้ฮะกับปีเกิดเรา5555 ลูกจะได้คลอดง่ายๆ เลี้ยงง่ายๆ ดวงไม่ชงกันอะไรประมานนั้น
อ่ะเดี๋ยวจะออกทะเลไปไกล🌊...กลับมาทางนี้ก่อน.. คือก่อนจะปฏิบัติภารกิจให้ตั้งท้องอาโป ฝ้ายเตรียมตัวก่อนหน้านั้นประมาน 3 เดือนในการกินอาหารและวิตามินบำรุง.. ซึ่งตัวที่ฝ้ายทานเป็นหลักก็คือโฟลิคค่ะ 💊เจ้าตัวโฟลิคเนี่ยจริงๆเค้าไม่ได้บำรุงเพื่อให้แม่ตั้งท้องง่ายนะคะ แต่ว่ามันเป็นวิตามินที่ร่างกายเราจะดึงมาใช้ทันทีเมื่อเกิดการปฏิสนธิเพื่อสร้าง DNA และเซลส์ต่างๆของร่างกายให้ลูกของเราค่ะ🧬 ดังนันเพื่อให้ตัวอ่อนพัฒนาการอย่างสมบูรณ์ คุณแม่ก็ต้องสะสมกรดโฟลิคไว้ในร่างกายให้มากๆก่อน เพราะถ้าเกิดร่างกายเรามีโฟลิคไม่เพียงพอให้ลูกดึงไปใช้อาจจะส่งผลให้ลูกเราพิการ เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ง ได้ค่ะ ซึ่งจริงๆคือในอาหารพวกผักใบเขียวก็จะมีโฟเลตสูงเหมือนกัน แต่เราไม่รู้ว่าที่เรากินมันจะเพียงพอมั๊ย ดังนั้น เราก็เลยต้องกินโฟลิคเสริมเพื่อตุนไว้ก่อนค่ะ แล้วก็ถ้าใครตั้งท้องไปฝากครรภ์แล้วเนี่ย คุณหมอก็จะให้ตัวนี้มาทานเหมือนกันค่ะ คือกินกันไปยันคลอดเลยทีเดียว😁😁

ซึ่งเจ้าโฟลิคเนี่ย ก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อเลยค่ะ.. บางยี่ห้อก็ผสมวิตามินอื่นๆลงไปด้วย หรือบางยี่ห้อก็เคลมว่าเป็นวิตามินเสริมอาหารสำหรับว่าที่คุณแม่โดยเฉพาะ คุณแม่ก็สามารถเลือกกันเอาตามสะดวกได้เลยค่ะ ส่วนของฝ้าย ฝ้ายเลือกตัวที่มีโฟลิคเยอะๆไว้ก่อน 500-800 mcg ขึ้นไปค่ะ




เมื่อร่างกายคุณแม่พร้อม ทีนี้ก็นับวันตกไข่รอเลยค่ะ หลายคนอาจจะใช้วิธีการจดบันทึกประจำเดือนแล้วคำนวนเอา แต่ฝ้ายคำนวนไม่เป็นอ่ะ555😅 ก็เลยต้องใช้แอพช่วย ของฝ้ายจะใช้แอพชื่อว่า Period Tracker บันทึกวันที่ประจำเดือนมาในแต่ละดือน แนะนำว่าให้ทำสะสมไว้นานๆเลยนะคะ ยิ่งนานแอพจะยิ่งคำนวนวันแม่น หรือถ้าใครมีจดใส่สมุดไว้ก็มาไล่ลงย้อนหลังก็ได้ค่ะ อันนี้คือฝ้ายทำไว้ตั้งแต่สมัยเรียนนู่นนน.... ดังนั้น แอพเค้าก็เลยจะคำนวนวันให้ค่อนข้างแม่น ว่าประจำเดือนจะมาวันไหน ไข่จะตกวันไหน จริงๆผู้หญิงทุกคนไม่จำเป็นว่าจะต้องเฉพาะว่าที่คุณแม่ที่อยากตั้งครรภ์เท่านั้น ก็ควรบันทึกกันไว้นะคะว่าประจำเดือนเรามาวันไหน หมดวันไหนบ้าง เพราะเวลาเกิดอะไรผิดปกติ เราจะได้มีข้อมูลตรงนี้ไว้คุยกับคุณหมอได้ค่ะ 🩺

นอกจากคอยลงบันทึกเรื่องประจำเดือนแล้ว ช่วงเดือนที่ฝ้ายแพลนว่าจะปฏิบัติภารกิจผลิตลูก ฝ้ายก็จะวัดอุณหภูมิตัวเองทุกเช้า แล้วก็จดไว้ด้วยค่ะเพื่อความแม่นยำ เพราะช่วงวันที่ไข่ตกอุณหภูมิเราจะสูงกว่าปกติประมาน 0.4-1 องศา 🌡




มาถึงเรื่องประเด็นการผลิตลูกชายกันบ้างว่ามันต้องทำท่าไหนยังงัย พอไข่ตกแล้ว ป๊าบๆๆไปจะได้ลูกชายเลยไหม??

เดี๋ยววว!!....ใจเย็นก่อนค่าาาคุณพ่อคุณแม่..
ก่อนจะไปถึงท่า มาฟังฝ้ายอธิบายก่อน...

ปกติคนเราจะมีโครโมโซมเพศ 2 แบบคือ XX กับ XY
X ตัวหน้าเนี่ยมันอยู่ในไข่ของแม่อยู่แล้ว ดังนั้นผู้กำหนดเพศก็คือสเปิร์มจากคุณพ่อ ซึ่งก็มีทั้ง X ทั้ง Y ปะปนกันไป ถ้าตอนปฏิสนธิ X ชนะได้เข้าคู่เป็น XX ก็จะได้ลูกสาว แต่ถ้า Y ชนะ เกิดเป็น XY ก็จะได้ลูกชายสมใจอยากค่ะ🧑

👧เจ้าตัว X หรือลูกสาวเนี่ย นางจะมีนิสัยเชื่องช้า แต่อดทนค่ะ คุณพ่อปล่อยหนูมาแต่ไข่จากแม่ยังไม่พร้อม...ไม่เป็นไรค่ะหนูรอด๊ายย!! หนูก็จะค่อยๆวิ่งของหนูไปเรื่อยๆเหมือนเต่า🐢

👦ส่วนเจ้าตัว Y หรือลูกชายเนี่ย นางเหมือนกระต่าย🐇 คือนางวิ่งเร็ว..แต่เหนื่อยง่าย วิ่งไปแปบนึงเหนื่อยแล้ว.. แต่อันนี้ไม่ได้นอนพักรอเหมือนกระต่ายในนิทานนะคะ นางตายไปเลยจ้าาา.. พูดง่ายๆคือคุณลูกชายเนี่ยเค้าเร็ว แต่เค้าไม่ทน เจออะไรนิดอะไรหน่อยก็ตายแระ😪

ดังนั้น เพื่อโกงการแข่งขันในครั้งนี้... คุณพ่อคุณแม่พอจะนึกภาพออกแล้วมั๊ยคะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง เห็นมั๊ยคะว่าทำไมเราต้องนับวันตกไข่

..เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหนไข่ตก🍳 ยกเลยนัด..ปิดโทรศัพท์..แล้วรีบกลับบ้านให้ไวเลยค่ะ 🤣🤣🤣

ของอาโปนี่คือไข่ตกตอนวันเกิดฝ้ายเลยเนี่ย พอเป่าเค้กกับครอบครัวเสร็จบอกแม่ "แม่ๆวันนี้กลับเร็วนะ..ไข่ตก555😂"




👦อย่างที่บอกว่าเจ้าโครโมโซมเนี่ย Y เค้าวิ่งเร็ว ตายง่าย ดังนั้น ตอนที่จะส่งเค้าไปหาไข่ของแม่เนี่ย ส่งเค้าเข้าไปให้ลึกที่สุดนะคะ... ท่าที่มันจะเข้าไปลึ๊กกก ก ก ลึกได้เนี่ยพอจะนึกออกกันมั๊ยอ่ะว่าท่าไหน😍😍

ท่าที่จะเข้าไปส่งลูกชายได้ใกล้ๆก็อย่างเช่น ท่ายืน ท่าDoggy หรือเบสิกๆแบบMissionary ก็ได้เช่นกัน แต่คุณแม่ก็จำเป็นจะต้องให้ถึงจุดสุดยอดพร้อมกันด้วยนะคะ เพื่อให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง เพราะเวลากล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นจังหวะมันจะช่วยดันให้บรรดาคุณลูกชายเค้าเข้าไปได้เร็วขึ้น เหมือนติดเทอร์โบให้อ่ะ ((ฟิ้วว ว ว🚀))

อ้อ..อีกอย่าง อันนี้ฮาอ่ะ แอบเขิน😋 คือพอเราได้ข้อมูลแบบนี้มา พอเราปฏิบัติภารกิจเสร็จปุ๊บ.. เรายกขาขึ้นค้างไว้เลย.. เผื่อช่วยให้คุณลูกๆเค้าเข้าไปเจอไข่ได้เร็วๆ ซึ่งก็ไม่รู้เวิร์ครึเปล่านะ แต่ก็ทำ🤣🤣

🛑นอกจากนี้ ช่วงก่อนวันไข่ตกก็ต้องห้ามมีอะไรกันบ่อยนะคะ เพราะถ้าคุณพ่อปล่อยลูกๆเข้ามาบ่อยๆ เจ้าลูกสาวอาจจะมารอคอยท่าอยู่ตั้งแต่เมื่อวันก่อน พอแม่ไข่ตกปุ๊บลูกสาวก็รีบชิงเข้าเส้นชัยไปก่อนซะงั้นเลย ส่วนของฝ้ายนี่คืองดไปเลยจ้าา..รอวันไข่ตกทีเดียว ชัวร์ๆ 👍👍

🍽มาพูดถึงเรื่องของกินที่เป็นตัวช่วยกันบ้าง อันนี้บอกก่อนนะคะว่าไม่รู้ว่าอาหารการกินมันช่วยได้ขนาดไหน เพราะส่วนตัวฝ้ายก็กินปกติ แต่ติดกินเค็มอยู่แล้ว... คือเค้าบอกว่าถ้าเรากินอาหารที่มีโซเดียม กับ โพแทสเซียมสูงเนี่ย มันจะปรับให้ช่องคลอดของเรามีสภาวะเป็นด่าง ซึ่งเอื้อให้โครโมโซม Y ฝังตัวได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาหารที่ว่าก็อย่างเช่น เนื้อสัตว์🍖 ไส้กรอก🌭 ถั่ว🥜 กล้วย🍌 และอาหารที่มีรสเค็ม🧂 แต่ก็อย่าให้เค็มมากไปนะคะ เดี๋ยวจะได้ลูกชายมาพร้อมกับโรคไต😂😂





สุดท้ายนี้ ถ้าลองมาทั้งหมดที่ฝ้ายว่ามาแล้วยังไม่มาซักที ลองไปไหว้พระขอพรเพื่อให้จิตใจปลอดโปร่งดูบ้างก็ดีนะคะ

รายชื่อวัดเพื่อไหว้พระขอลูก
1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรหมาวิหาร (วัดโพธิ์) : กรุงเทพ
แนะนำให้มาขอพรจาก "พระพุทธโลกนาถ" ซึ่งจะต้องเดินไปทางด้านในวัดอีก ซึ่งของที่นำมาถวาย ได้แก่ ธูป เทียน ไข่ และผลไม้ เช่น กล้วย มะพร้าว

2. วัดเล่งเน่ยยี่ หรือ วัดมังกรกมลาวาส : กรุงเทพ
แนะนำให้มาขอพรจาก "เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตร" โดยของที่นำมาถวายแก้บนจะได้แก่พวกอาหารเจ หรือผลไม้ต่างๆค่ะ

3. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร : นครศรีธรรมราช
เป็นวัดที่มี ท้าวจตุคาม-รามเทพ อันเลื่องชื่อ แต่ถ้าจะไปขอลูกแนะนำให้ไปขอที่ "วิหารของพระมหากัจจายนะ (พระแอด)" และถ้าใครขอลูกได้สำเร็จตามความเชื่อก็มักจะนำรูปลูกมาวางไว้ที่สถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ
4. วัดผู่จี้ : เกาะผู่โถวซาน ประเทศจีน
เนื่องจากในวัดแห่งนี้มีพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นองค์ประธาน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในแผ่นดินจีน และมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมมากถึง 33 ปาง รวมถึง "ปางประทานบุตร" ด้วย ซึ่งแน่นอนค่ะว่ามีความเชื่อว่าจะช่วยให้สมหวังในการมีลูก

5. วัดหลิงซาน : เมืองอู๋ซี มลฑลเจียงซี ประเทศจีน
แนะนำให้ขอพรจาก "พระสังกัจจายน์" ภายในวัด โดยมีทริคว่าให้นำมือไปลูบพุงลูบตัวรูปปั้นเด็กที่ปีนป่ายอยู่ล้อมรอบพระสังกัจจายน์ แล้วเวียนเทียนให้ครบ 3 รอบค่ะ

6. Repulse Bay : ฮ่องกง
เป็นวัดที่ขึ้นชื่อมากเรื่องการขอลูกค่ะ โดยให้ไปอธิษฐานขอพรกับองค์ "Baby Buddha" ซึ่งว่ากันว่าสำเร็จเกือบทุกคนเลยค่ะ โดยพออธิษฐานเสร็จแล้ว ให้เอามือลูบที่ท้องค่ะ ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าลูบท้องซ้ายจะได้ลูกชาย ลูบท้องขวาจะได้ลูกสาวค่ะ

Credit: https://th.theasianparent.com
==============

เป็นยังงัยกันบ้างคะ "วิธีการทำลูกชาย" ตอนที่ฝ้ายศึกษาข้อมูลฝ้ายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเวิร์คไหม แต่ก็ลองดู...แล้วก็ได้อาโปมานั่งป่วนอยู่ตรงนี้ ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังกันค่ะ😍😍

ออกตัวอีกครั้งว่าไม่ใช่กูรู.. แต่ลองทำดูแล้วมันมา😂😂 ถ้ามีข้อมูลอะไรผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะคะ🙏🙏

อยากรู้ว่ามีใครเคยลองแล้วบ้างมั๊ยอ่ะ..ได้ผลเหมือนฝ้ายกันมั๊ยคะ?? หรือได้ผลเป็นยังงัย มาคอมเม้นท์คุยกันได้นะคะ

หรือจะเข้ามาเม้าท์มอยกันเรื่องอื่นๆ ฝ้ายก็ยินดีเลยค่ะ
ติดตามมาคุยกันต่อได้ที่ 💬

FB : https://www.facebook.com/mamakamouth
IG : @mamakamouth

บ๊ายบายยยย💋












บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

ทำยังงัยให้ได้ "ลูกชาย" ด้วย 5 วิธีนี้

ABOUT ME

I could look back at my life and get a good story out of it. It's a picture of somebody trying to figure things out.

SUBSCRIBE & FOLLOW

POPULAR POSTS

  • พาปะป๊าไปบอกลาติ่งเนื้อที่ AES Clinic
  • รีวิว IQAir Atem Car เครื่องฟอกอากาศในรถสุดคูลลล ❄
  • 5 เคล็ดลับ หยุดผมร่วงหลังคลอด..ไม่กลัวหัวล้าน
  • สร้างอากาศดีๆได้ง่ายๆ :)
  • รวม 4 นิทานสอนใจ (พ่อแม่) โดยนักเขียน 'โกมุนยอง' จากซีรี่ย์สุดฮิต It's Okay To Not Be Okay
  • เรื่องของผมหงอกที่(แม่)ไม่อยากบอกใคร 😥
  • บ๊ายบายแก้มย้อย! ด้วย Ultra HIFU Super Lift ที่ Dimension Clinic
  • ทำยังงัยให้ได้ "ลูกชาย" ด้วย 5 วิธีนี้
  • กอด จูบ ลูบคลำ ขี่หลังปลาโลมาที่ Pattaya Dolphinarium
  • ออกไปเล่นให้(แม่)​หายห่วง.. ด้วย Howdy Family ผลิตภัณฑ์​เพื่อทุกคนในครอบครัว

Categories

  • เม้าท์มอยซีรี่ย์ 1
  • เม้าท์ลูก 1
  • วิถีคุณแม่มือใหม่ 2
  • หม่าม้าพาเที่ยว 1
  • หม่าม้ารีวิว 6

Advertisement

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

About me

test

Duis autem vel eum iriure dolor in hendrerit in vulputate velit esse molestie consequat, vel illum dolore eu feugiat nulla

ค้นหาบล็อกนี้

Blog Archive

  • ►  2022 (1)
    • ►  มกราคม (1)
  • ▼  2020 (9)
    • ►  ธันวาคม (1)
    • ►  พฤศจิกายน (2)
    • ►  ตุลาคม (1)
    • ▼  สิงหาคม (4)
      • พาปะป๊าไปบอกลาติ่งเนื้อที่ AES Clinic
      • 5 เคล็ดลับ หยุดผมร่วงหลังคลอด..ไม่กลัวหัวล้าน
      • รวม 4 นิทานสอนใจ (พ่อแม่) โดยนักเขียน 'โกมุนยอง' จ...
      • ทำยังงัยให้ได้ "ลูกชาย" ด้วย 5 วิธีนี้
    • ►  กรกฎาคม (1)

Pages

  • Home
  • Shop
  • Blog
  • About
  • Contact
  • Download
  • FACEBOOK

Oddthemes

Designed by OddThemes | Distributed by Gooyaabi Templates