หม่าม้าขาเม้าท์ :)
  • Home
    • Version 1
  • Download
  • Social
  • Features
    • Lifestyle
    • Sports Group
      • Category 1
      • Category 2
      • Category 3
      • Category 4
      • Category 5
    • Sub Menu 3
    • Sub Menu 4
  • Contact Us

ช่วงนี้หม่าม้าห่างหายจากการทำผมไปนาน ไม่ได้ทำเคมี ทำสีมานานม๊ากกกกก เนื่องจากเวลาไม่เอื้ออำนวยเลย เวลาไปทำสีแต่ละทีคือต้องมีครึ่งวัน.. ปล่อยไว้จนผมหงอกมาเยือนเต็มหัว มาส่องกระจกอีกทีถึงกับช็อค!!!😫


โชคดีที่วันก่อนพาเจ้าตัวแสบไปซื้อขนมที่  Family Mart เลยได้รู้จักกับแชมพูเปลี่ยนสีผม 'DIPSO' ที่สะดุดตากับเจ้าดิ๊พโซ่ตัวนี้เพราะเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ และที่สำคัญคือไม่มีแอมโมเนียที่ทำให้เราแสบหัว แสบตาเวลาทำอีกด้วย 🤩🤩

วันนี้หม่าม้าก็เลยจะมารีวิวแชมพูปิดผมขาว DIPSO ตัวนี้กัน เพราะวิธีใช้นั้นแสนจะง่ายมั่กมากก.. แค่ 10 นาทีผมขาวก็หายวับ!! ว่าแล้วก็ไปดูกันเล้ย❤


ขั้นแรก ทำการล้างผมให้เปียกหมาดๆซะก่อน จากนั้นทำการผสมแชมพูส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 เข้าด้วยกัน แล้วก็คนๆจนเป็นเนื้อเดียวกัน

พอดีตอนทำ รีบไปหน่อยเลยเทใส่มือซะเลย 🤣🤣 ถ้าใครผมยาว ต้องใช้แชมพูเยอะๆ หม่าม้าแนะนำให้หาถ้วยมาผสมจะง่ายกว่านะคะ.. ไม่งั้นก็ค่อนข้างจะเละเทะทีเดียว ฮ่าๆๆ

พอผสมเสร็จ ก็แปะลงบนหัวโลดด.. ละเลงๆ ขยี้ๆ ให้ทั่ว โดยเฉพาะตรงที่มีผมขาวเยอะๆ จากนั้นก็ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด


ชวิ้งงง!! และแล้วเราก็มีผมดำ ดูเด็กได้สมใจแล้ว เย่!! 🥰


อ่ะนี่.. ให้ดูกันแบบชัดๆ ว่ามันปิดผมขาวได้เนียนสนิทขนาดไหน



อ้อออ.. หลังจากได้ผมดำสมใจ หม่าม้าก็ไม่ลืมที่จะบำรุงผมด้วย Dipso Secret Hair Serum Keratin เพื่อให้ผมนุ่ม สลวย เงางามยิ่งขึ้นอีกด้วย 💋


แล้วถ้าใครอยากมีผมดำสวย ดูเด็กลง แบบหม่าม้าก็ไปตามหาซื้อแชมพูปิดผมขาว DIPSO กันได้ตามร้านค้าใกล้บ้าน หรือที่ Lotus, Makro, Family Mart และ CJ Express กันได้เลยนะคะ.. ราคาน่ารักม้ากกก 💖



หรืออยากติดตามข่าวสาร หรือโปรโมชั่นเพิ่มเติมก็ไปส่องในหน้าเพจของเค้าทางนี้ได้เลยจ้าา 👉 https://www.facebook.com/DipsoThailand/









สวัสดีค่าาแม่ๆ วันนี้หม่าม้าชวนมาทำสวยที่ Dimension Clinic กันค่ะ 🥰

หลังจากโดนแรงโน้มถ่วงโลกทำร้ายมานานถึง 32 ปี.. แก้มที่เคยตึงๆ ก็เริ่มหย่อนคล้อยลงมา วันนี้ก็เลยตัดสินใจมาดูแลหน้าตัวเองกันสักหน่อยก่อนจะห้อยย้อยไปไกลแล้วกู่ไม่กลับ ฮ่าๆ 🤣🤣 


ต้องบอกก่อนว่า ตัวหม่าม้าเนี่ยไม่ใช่สาย beauty เลยค่ะ.. คือนอกจากไปรักษาสิวสมัยสาวๆแล้ว ก็ไม่เคยใช้บริการใดๆกับสถาบันเสริมความงามเหล่านี้เลย นี่ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกจริงๆ ก็เลยต้องหาข้อมูลอัพเดทกันหน่อยว่าจะไปทำHIFUที่ไหนดี สุดท้ายก็มาจบที่ Dimension Clinic ค่ะ


ที่หม่าม้าเลือก Dimension Clinic เพราะเค้ามีชื่อเสียงเรื่องการทำ HIFU จริงๆค่ะ มีรีวิว HIFU เยอะมากกก และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อุปกรณ์และตัวยาได้มาตรฐานอ.ย. รวมถึงตัวคลินิคเองที่สะอาดสะอ้านและเดินทางสะดวก ที่สำคัญคือเค้ามีโปรโมชั่นปังๆออกมาตล๊อดดด หม่าม้าก็เลยรีบปรี่ตัวไปทำกับเค้าทันทีเลยคะ😅 


วันนี้หม่าม้าเลือกมาทำที่สาขาทองหล่อค่ะ อยู่ที่ตึกเอท ชั้น 1.. ขึ้นบันไดเลื่อนมาปุ๊บ อยู่ข้างหลังเลย 


แม่ๆสามารถตามไปเช็คโปรโมชั่นทางหน้า 'เวบไซต์' หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง 'เพจเฟซบุค' ตามลิ้งค์ที่หม่าม้าใส่ไว้ได้เลยนะคะ


และสำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า HIFU คืออะไร หรือทำเพื่ออะไร หม่าม้าจะอธิบายให้ฟังก่อนละกันเน้อออ

HIFU คือนวัตกรรมการยกกระชับหน้าแบบใหม่แทนการร้อยไหม โดยการใช้คลื่น ultrasound ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ยิงลงบนผิวหน้าเพื่อยกกระชับหน้าให้หน้าไม่เหี่ยว หน้าได้รูป V-Shape ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างคอลลาเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัวนั่นเองค่ะ


อ่ะ!! เรามาเริ่มรีวิว ' ไดเมนชั่น คลินิก' กันดีกว่าค่ะ

มาดูสถานที่วันนี้ของเรากันก่อน ❤



Dimension Clinic มีเปิดให้บริการ 2 สาขานะคะ คือ ตึกเอท ทองหล่อ ชั้น 1 และ เดอะพรอมานาด รามอินทรา ชั้น 4 ค่ะ... ซึ่งวันนี้หม่าม้ามาทำที่สาขาทองหล่อค่ะ


พอเข้ามาถึงก็มาลงทะเบียนกันก่อนเลยค่ะ 



เรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปคุยกับคุณหมอกันค่ะ



หลังจากคุณหมอพิจารณารูปหน้าของหม่าม้าแล้วก็บอกว่าจริงๆแล้วหม่าม้ายังแก้มไม่ย้อยมาก และยังไม่ค่อยมีเหนียงนะ (แอบดีใจ555❤) ซึ่งการทำในวันนี้ หลังจากทำเสร็จมันจะยกกระชับขึ้นทันที 30% แต่เราอาจจะมองเห็นไม่ชัดมาก เพราะมีจุดที่จะดึงขึ้นไม่เยอะ แต่จะเห็นผลเต็มที่เลยเนี่ยคือ 1 เดือนหลังจากทำ และเจ้าตัว HIFU นี้จะอยู่กับเราไปได้ถึง 6-8 เดือนเลยทีเดียว 😮


หลังจากคุยกับคุณหมอเรียบร้อยก็มาเตรียมหน้ากันค่ะ

จะมีคุณเจ้าหน้าที่มาคลีนหน้าให้เราเพื่อเตรียมพร้อม หลังจากนั้นจะทายาชาและพักทิ้งไว้ประมาณ 40 นาทีค่ะ


เตรียมพร้อมม!!!  แอบมีความตื่นเต้น... แต่พี่เจ้าหน้าที่น่ารักมากกก ชวนคุยและคอยแนะนำตลอดเลย
 

เริ่มจากคลีนหน้ากันก่อนเลย... สบ๊ายยย สบาย 😍


จากนั้นก็ทายาชา... และwrapหน้าทิ้งไว้ 40 นาทีค่ะ


วันนี้คุณเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ปะป๊าและเจ้าตัวแสบมานั่งรออยู่ในห้องด้วยค่ะ หม่าม้าจะได้ไม่เหงา 😁😁 นั่งเล่นโทรศัพท์ไป.. คุยกันไป.. และแล้ว40 นาทีก็ผ่านไป ไวเหมือนโกหก... แอบมีความตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะกลัวเจ็บ 😆

และแล้วก็มาถึงเวลายกกระชับหน้า มาทำHIFUกันค่ะ


เริ่มแรกคุณหมอจะใช้ปากกามาขีดๆที่หน้าเราก่อน ว่าจะต้องทำตรงไหนบ้าง จากนั้นก็จะตามด้วยเจลเย็น ((ซึ่งไม่รู้สึกเย็นเลย เพราะหน้าชาไปเรียบร้อย🤣)) แล้วคุณหมอก็จะเอาเครื่อง HIFU มายิงบนหน้าเราไปเรื่อยๆจนทั่วค่ะ





ขณะที่ยิงถามว่าเจ็บมั๊ย?? ...ฝั่งข้างที่ไม่มีอุดฟันมันก็ไม่เท่าไหร่นะ เป็นความรู้สึกแบบจี๊ดๆ + จั๊กกะจี้มากกว่า (แต่ตอนทำก็แอบนอนเกร็งอยู่😅) ส่วนข้างที่มีครอบฟันน้านนน.. คือรู้สึกจั๊กกะจี้ + ปวดฟันแบบเสียวๆตลอดการทำเลยค่ะ ขณะทำคุณหมอก็อนุญาตให้อ้าปากได้เพื่อให้ฟันไม่กระทบกัน.. ซึ่งมันก็ช่วยได้นิดนึง 5555


แค่นี้สบายมาก!!! นี่ยังทำไป คุยไป เม้าท์กับคุณหมอไปอยู่เลย 5555😂


แอบมาส่องเครื่อง 👀

มาดูผลการทำหลังจากยิง HIFU ไปข้างนึงกันดีกว่าค่ะ


คือพอทำเสร็จข้างนึง รู้สึกเลยว่าหน้าเรามันถูกดึงขึ้นค่ะ รู้เลยว่าหน้าเรา 2 ข้างมันไม่เท่ากัน


และอันนี้หลังผ่านไป 3 วันค่ะ


จะเห็นได้ว่ากรอบหน้ามันชัดขึ้นมากกก เนื้อตรงกรามก็ดูหายไปค่ะ


สุดท้ายนี้ ใครสนใจตามไปอัพความสาวแบบหม่าม้า ก็ติดต่อทางคลินิกไปตามนี้ได้เลยค่าา เค้ามีโปรโมชั่นคุ้มๆปังๆให้ตลอดเลย ❤


website : www.dimensionclinic.com

Facebook : https://www.facebook.com/dimensionclinic/

Instagram : dimension_thai

Line : @dimensionclinic

call center : 092-636-1166



#หม่าม้าขาเม้าท์ #หม่าม้ารีวิว #dimensionclinic #hifu #Hifuหน้าเรียว #hifudimension





สวัสดีค่ะแม่ๆ ช่วงนี้มะรุมมะตุ้มกันทุกอย่างเลยเนอะ สำหรับคุณแม่ลูกเล็กแบบพวกเรา ไหนจะฝุ่น ไหนจะโควิด ไหนจะ RSV ไปอี๊กกกก🤒 จะพาลูกออกนอกบ้านทีนี่ต้องคิดแล้วคิดอีก.. เตรียมตัวอย่างกะไปออกรบเลยทีเดียว😷

แต่ๆๆ วันนี้หม่าม้ามีไอเท็มเด็ดพกติดกระเป๋าง่ายๆ ไว้ปกป้องลูกน้อยมาแนะนำคุณแม่ๆกันค่ะ❤️



นั่นก็คือ!! ฮาวดิ แฟมิลี่ : สเปรย์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยนนั่นเองค่ะ 👍

มาๆ หม่าม้าจะเหลาให้ฟังกันว่าสเปรย์นี้มันดีกว่าสเปรย์ทำความสะอาดทั่วๆไปยังไง... จุดเด่นเลยที่ทำให้หม่าม้าตัดสินใจเลือกใช้คือ เจ้าตัวนี้เค้าทำลายเชื้อโรคด้วยอนุภาคประจุบวกค่ะ ซึ่งมั่นใจได้ว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กมากกว่าสเปรย์แอลกอฮอล์ทั่วไปแน่นอน แล้วหม่าม้าก็ยังไม่เคยเห็นยี่ห้อ​ไหนทำแบบนี้เหมือนกันด้วยค่ะ




ด้วยความที่มันอ่อนโยนมากๆ เราจึงไม่ต้องห่วงเลยถ้าฉีดแล้วน้องจะเอามือเข้าตา เข้าปาก เพราะตัวนี้ไม่อันตราย ไม่แสบตาเลย เราสามารถใช้ได้ตั้งแต่น้องอายุ 3 เดือนเลยทีเดียว




นอกจากฉีดเป็นสเปรย์ล้างมือสำหรับเด็ก เพื่อฉีดฆ่าเชื้อโรคบนมือแล้ว เรายังสามารถฉีดลงบน "สิ่งสาธารณะ" ต่างๆที่เราและลูกต้องจับได้อีกด้วย ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ราวบันได ลูกบิดประตู โถส้วม ฯลฯ ซึ่งทางแบรนด์เค้าเคลมว่าสามารถปกป้องพื้นผิวที่ฉีดได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเลยที่เดียว!  สมกับเป็นสเปรย์ฆ่าเชื้อสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัวจริงๆ  ทีนี้เวลาออกไปไหนแม่ก็ไม่ต้องห่วงแล้ว..  ฉีดกันกระจายเล้ยยย!! 😂😂





ฉีดๆๆให้ทั่วแล้วก็ลุยโลดดด!!! 
เล่นเสร็จก็กลับมาฉีดมือ ฉีดขาน้องต่อ 😅

หลังเจอเจ้าตัวนี้ ชีวิตก็ดี๊ดี.. ดีขึ้นเยอะ เพราะแม่ไม่ต้องมาคอยกังวลอีกต่อไปว่าลูกจะเจอเชื้อโรคไหม จะสะอาดหรือเปล่า แถมไม่ต้องมาขัดใจคุณลูกในทุกโมเม้นท์การเล่น การเรียนรู้ของเค้าอีกด้วย 😁🥰





สุดท้ายนี้ ใครสนใจอยากได้ไว้พกติดกระเป๋าแบบหม่าม้าบ้างก็ตามไปสั่งซื้อกันได้ที่ 👉
Facebook : https://www.facebook.com/HowdyFamily
Facebook shop : https://www.facebook.com/HowdyFamily/shop
Facebook inbox : m.me/HowdyFamily


#howdyspray
#howdyfamily
#สเปรย์ทำความสะอาดมือ
#สเปรย์สำหรับเด็กเล็ก
#เช็ดก้นลูกน้อย



สวัสดีค่ะทุกคนน.. วันนี้หม่าม้ากลับมาแล้วว หลังจากห่างหายไปพักใหญ่😅 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ หม่าม้ากลับมาพร้อมกับไอเท็มสุดคูลสำหรับคุณลูกขี้แพ้ นั่นก็คือออ...


เครื่องฟอกอากาศในรถ IQAir Atem Car นั่นเองค่าา


หลายๆคนอาจจะยังกลัวcovid-19กันอยู่จนลืมไปว่าสิ่งที่เราต้องพบเจอประจำกันทุกๆปี คือฝุ่น PM2.5 ที่มักจะกลับมาช่วงต้นปีนั่นเองค่ะ.. แล้วนี่ก็ใกล้จะหมดปีแล้ว หม่าม้าก็ไม่ลืมที่จะหาไอเท็ม gadget หรืออุปกรณ์ต่างๆมาช่วยปกป้องอาโปจากฝุ่นร้ายเหล่านี้ เพราะหม่าม้าเพิ่งรู้ว่าอาโปแพ้ฝุ่นPM2.5 หนักมากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ


ขอเกริ่นถึงอาการของ 'อาโป' ลูกชายตัวแสบของหม่าม้าก่อนนะคะ มันเริ่มจากที่ว่าต้นปีที่ผ่านมาช่วงก่อนโควิด อาโปมีน้ำมูกบ่อยมากกก.. เรียกได้ว่ามีน้ำมูกใสๆทุกวัน ไม่เคยหาย.. เราก็คิดว่าเค้าคงเป็นหวัดก็ให้ทานยา พอทานยาก็ลดลงบ้าง แต่ไม่หายขาด ทานยาอยู่นาน หมดไปเป็นขวดๆเลยอ่ะ ก็ไม่หายสักที ก็เข้าๆออกๆโรงพยาบาลกันเป็นว่าเล่น ว่าลูกเป็นอะไรนะ ไซนัสอักเสบรึเปล่า ภูมิแพ้รึเปล่า แพ้ขนกระต่ายที่เลี้ยงไว้รึเปล่า จนมาเอะใจว่า เอ๊ะ! ทำไมปะป๊าก็เป็นเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงที่มีฝุ่นเยอะก็คือน้ำหูน้ำตาไหลกันทั้งพ่อทั้งลูก ก็เลยลองไปปรึกษาคุณหมอดู กะว่าจะขอตรวจวา่เป็นภูมิแพ้หรืออะไรด้วยไหม แต่คุณหมอแนะนำว่าเป็นไปได้ว่าเกิดจากฝุ่น PM2.5 ให้ลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมหรือเลี่ยงการออกจากบ้านดูก่อน ช่วงนั้นอาโปก็เลยได้ฝึกใส่หน้ากากมาตั้งแต่ก่อนโควิดเลยค่ะ และเค้าก็ยอมใส่แต่โดยดี เพราะหลังจากใส่หน้ากากแล้วน้ำมูกเค้าหายเลย หายใจได้สะดวกขึ้น พอจะออกจากบ้านทีเลยเรียกร้องขอใส่หน้ากากเองโดยอัตโนมัติ


พอรู้ดังนั้นแล้วว่าคุณลูกและคุณพ่อแพ้ PM2.5 แน่ๆ ฝ่าย support อย่างเราก็จัดการหาอุปกรณ์ต่างๆให้ทันที จำได้ว่าช่วงนั้นคือสั่งหน้ากากมาลองเยอะม้ากก สั่งมาทุกแบบ ทั้งแบบใช้ครั้งเดียว แบบผ้า แบบไฟฟ้ามีพัดลม เครื่องฟอกอากาศในบ้าน เครื่องวัดค่าฝุ่น ...คือแม่มีหมดเลย (เลยเป็นผลพลอยได้ว่าไม่มีช่วงsufferจากวิกฤตหน้ากากอนามัยแพง🤣🤣) 


ซึ่งพอมาถึงช่วงนี้ ใกล้ๆจะสิ้นปีอีกแล้ว แม่ก็เลยต้องรีบหาอะไรมาป้องกันคุณพ่อและคุณลูกไว้ก่อน ก่อนที่PM2.5จะมาถล่มแล้วจะเตรียมตัวซื้อของไม่ทัน หรือได้ราคาแรงๆมาอีก


หันซ้าย หันขวาก็พบว่า เอ้อออ...ของชิ้นใหญ่ๆเราก็มีครบหมดแล้วนะ ขาดก็แต่เครื่องฟอกอากาศในรถเนี่ยแหละ ที่เคยเล็งๆไว้ แต่ยังไม่ได้จัด เพราะตอนนั้นคิดว่าระบบฟอกอากาศโดยการปล่อยไออนลบที่มีมากับรถก็น่าจะพอถูไถอยู่ แต่พอเรามาศึกษาดูจริงๆก็ค้นพบว่า ระบบการฟอกออากาศโดยการปล่อยประจุลบนั้น มันจะทำหน้าที่ดักจับฝุ่นให้ฝุ่นมีน้ำหนักและตกลงมาแค่นั้น ไม่ได้กำจัดออกไป ซึ่งถ้าคิดตามภาพจริงๆ ฝุ่นมันก็ยังคงวนเวียนและพร้อมที่จะกระจายขึ้นมาในรถให้เราสูดดมได้ทุกเมื่อนั่นแหละ 


เมื่อคิดได้ดังนั้น คุณแม่สายgoogleอย่างเราก็ไม่รีรอที่จะสืบเสาะ เซิร์จหาข้อมูลทันทีว่าจะเอาเครื่องฟอกอากาศในรถยี่ห้อไหนดีน้าา เพราะต้องยอมรับว่ามันมีเยอะไปหมดจริงๆ ตั้งแต่ถูกยันแพง จากนั้นก็มาตัดช้อยส์ว่าขอเป็นเครื่องฟอกที่เป็น "เครื่องกรองอากาศในรถ" จริงๆ ให้ฝุ่นมันไปเก็บอยู่ในไส้กรองจริงๆ ไม่เอาพวกที่ปล่อยประจุลบอย่างเดียว เพราะในรถอากาศมันปิดยังงัยฝุ่นมันก็ยังวนเวียนสะสมอยู่ดีนั่นแหละ 


จนในที่สุดหม่าม้าก็ไปสะดุดใจกับเจ้าตัวนี้ค่ะ เครื่องฟอกอากาศในรถ IQAir Atem Car อย่างแรกเลยที่ชอบเพราะมันเป็นแบรนด์จากสวิสเซอร์แลนด์ เรื่องมาตรฐานการผลิต หรือความทนทานคือไม่ต้องห่วงเลย และที่สำคัญคือนางมาจากบริษัทเดียวกับแอพตรวจสอบคุณภาพอากาศเจ้าดังที่ใครๆก็รู้จักอย่างแอพ AirVisual ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นหม่าม้าจึงค่อนข้างให้เครดิตเค้าในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษทางอากาศค่ะ

ตอนของมาส่ง... มีเด็กตื่นเต้นกับกล่องพัสดุชิ้นใหญ่ด้วยค่ะ :)

นอกจากชื่อเสียงของแบรนด์แล้ว ตัวเครื่องฟอกนี้เค้ายังมีแผ่นกรอง HyperHEPA Plus ที่ทางแบรนด์เค้าเคลมว่าสามารถกรองมลพิษทางอากาศได้เล็กมากถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งมันเล็กม้ากกกก!! เล็กกว่าฝุ่น PM2.5 ถึง 800 เท่าเลยทีเดียว  ทำให้เจ้าเครื่องฟอกอากาศในรถเครื่องนี้สามารถกรองได้ทั้ง PM2.5 PM10 ไรฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่สำคัญสามารถกรองไวรัสสายพันธ์ุโคโรนา เช่น ซาร์ส เมอร์ส RSV ไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก และ โรคทางเดินหายใจได้ด้วย ซึ่งพอเห็นคำเคลมแบบนี้แล้วหม่าม้าก็ว้าวมากๆๆ รู้สึกอยากเสียเงินขึ้นมาทันที ฮ่าๆๆ🤣 เพราะอาโปกำลังอยู่ในวัยอนุบาล ซึ่งแน่นอนว่าเสี่ยงต่อการติดโรคทางเดินหายใจต่างๆมากอยู่แล้ว ถ้าได้เจ้าเครื่องฟอกอากาศนี้มาหม่าม้าคงจะอุ่นใจขึ้นได้อย่างแน่นอน 


และเจ้าแผ่นกรอง HyperHEPA Plus นี้ นอกจากอนุภาคการกรองของนางจะละเอียดแบบสุดๆแล้ว นางยังมีส่วนผสมของคาร์บอนซึ่งสามารถกรองสารพิษในอากาศที่เป็นอันตรายมากๆ อย่างสารฟอร์มาลดีไฮด์ สารระเหยจากน้ำมันเบนซิน ดีเซล สารเคลือบสี สารก่อมะเร็งต่างๆ แล้วก็ยังรวมไปถึงการกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เราอาจต้องเอในชีวิตประจำวัน เช่น กลิ่นอับในรถ กลิ่นควัน กลิ่นบุหรี่ กลิ่นรองเท้า กลิ่นอาหาร ได้อีกด้วยค่ะ


ร่ายมาซะยาวเหยียด😅 มาดูเครื่องจริงๆกันบ้างดีกว่าค่ะ


กล่องใหญ่โตมากทีเดียวค่ะ.. ซึ่งทางบริษัทเค้าแพคและขนส่งมาอย่างดี ไม่ต้องกลัวเสียหายเลย ข้างในกล่องจะประกอบไปด้วย เครื่องฟอกอากาศ แป้นฐานสำหรับติดเบาะรถยนต์ คู่มือ และอะแดปเตอร์ค่ะ


โดยการติดตั้งนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ ก่อนอื่น เราต้องติดตั้งแป้นฐานสำหรับติดเครื่องฟอกกับเบาะโดยสารซะก่อน โดยในกล่องจะมีคู่มือการติดตั้งแผนใหญ่ๆมาให้ด้วย เป็นภาพเข้าใจง่ายทีเดียวค่ะ


งานนี้ให้ปะป๊ามาช่วยติดตั้งให้ เพราะตัวเองชอบป้ำๆเป๋อๆกลัวจะทำอะไรพลาด 5555
แต่เอาจริงๆ มันไม่ยากเลยค่ะ แค่ร้อยสาย เสียบสายให้เรียบร้อยตามภาพ แค่นั้นเองค่ะ 😁



เมื่อติดตั้งฐานเรียบร้อยแล้ว ก็จะหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ... จากนั้นเราก็ทำการเสียบเครื่องฟอกอากาศเข้ากับฐาน ให้มีเสียง 'คลิ๊ก' ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ


..อ้ออ!! ลืมบอก ก่อนจะทำการติดตั้งเครื่องเข้ากับตัวฐาน อย่าลืมพลิกมาดู Pairing Code ด้านหลังตัวเครื่องนะคะ เพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อตัวเครื่องเข้ากับโทรศัพท์มือถือในการตั้งค่าต่างๆบนเครื่องค่ะ


จากนั้น ทำการเสียบไฟเข้ากับที่จุดบุหรี่ในรถให้เรียบร้อย.. ก็เป็นอันเสเร็จพิธีค่ะ


.... แต่ถ้าใครเสียบเครื่องฟอกไปแล้วลืมดู Pairing Code เหมือนหม่าม้าก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ... เพราะวิธีการถอดนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่กดปุ่มด้านข้างทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน แล้วดึงออกมาตามภาพค่ะ


พอถอดออกมาแล้ว พลิกด้านหลังดูก็จะเจอ Pairing Code ตามนี้ค่ะ


เครื่องฟอกอากาศ IQAir Atem Car เครื่องนี้ เค้าสามารถปรับระดับความแรงของพัดลมได้ถึง 3 ระดับด้วยกันเลยค่ะ โดยเราสามารถดูระดับความแรงของเครื่องได้จากไฟสถานะด้านข้างค่ะ  
ส่วนวิธีการเปิด-ปิดเครื่อง หรือปรับระดับความแรงลมนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ... เพียงแค่สัมผัสเบาๆบนตัวเครื่อง เครื่องก็จะปรับความแรงเพิ่มขึ้นจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 เป็นระดับ 3 และปิดเครื่องค่ะ... ใช้งานง่ายสุดๆไปเล้ยย!!


มาดูวิธีเชื่อมต่อกับโทรศัพท์กันบ้างดีกว่าค่ะ 😉
ก่อนอื่นเราต้องเข้า App Store หรือ Play Store แล้วดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น IQAir Atem มาก่อนนะคะ


จากนั้น พอเราเปิดแอพมาปุ๊บ เค้าก็จะให้เราทำการเชื่อมต่อกับเครื่องฟอกอากาศ โดยเราต้องเปิด Bluetooth บนมือถือเราก่อน แล้วทำการ Pairing โดยใส่ Pairing Code ที่อยู่ด้านหลังเครื่องได้เลยค่ะ


เมื่อทำการเชื่อมต่อเรียบร้อย เราก็จะเห็นหน้าแรกตามรูปทางซ้ายมือค่ะ
โดยในหน้าแรกนี้ แอพเค้าก็จะแสดงให้เราเห็นความแรงพัดลมที่เปิดอยู่ อายุฟิลเตอร์ อุณหภูมิ และค่าความชื้นภายในห้องโดยสารค่ะ


โดยอายุการใช้งานฟิลเตอร์ของเจ้า IQAir Atem Car นี้ เค้าคำนวนจากอายุการใช้งานจริงนะคะ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาคร่าวๆเหมือนเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ ที่จะกำหนดระยะเวลามาเลยไม่ได้วัดว่าเราใช้จริงมากน้อยขนาดไหน


ในส่วนของหน้า EDIT ก็จะเป็นการตั้งค่าเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ทั้งหมดค่ะ 
มีโหมดเปิด-ปิดระบบสัมผัสบนตัวเครื่อง เพื่อป้องกันเด็กๆกดเล่น สามารถกำหนดความแรงลมในแต่ละระดับได้ รวมทั้งแสงสว่างบนตัวเครื่อง และเสียงเครื่องเวลาเรากดเปลี่ยนความแรงลมด้วยค่ะ


เรียกว่าทุกอย่างสามารถปรับให้ตรงตามความต้องการเราได้หมดเลย.. อย่างตอนแรกที่ใช้ หม่าม้าก็ไม่ได้ปรับอะไรเลย แต่พอขับรถมาถึงตอนกลางคืนปุ๊บ.. ปะป๊าก็บอกว่าแสงมันแยงตามาก.. เราก็มาปรับในส่วนตรงนี้ได้ค่ะ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะไม่มีตรงนี้มาให้ อันนี้เลยเป็นอีกจุดที่หม่าม้าประทับใจมากกกก เพราะมันให้มากกว่าที่เราคาดหวังไว้อ่ะ 💖💖


สวัสดีค่าา...ทุกคน วันนี้หม่าม้าขาเม้าท์มาพาทุกคนไปดู+รู้จักวิธีการจี้ติ่งเนื้อออกแบบไม่ต้องกลัวเจ็บที่ AES Clinic กันค่ะ ซึ่งคนที่จะมาจี้ติ่งเนื้อโชว์ในวันนี้คือ 'ปะป๊าอาร์ต' นั่นเองงง

 


ก่อนอื่นขอเล่าให้ฟังก่อนว่าปะป๊าเนี่ย เค้ามีติ่งเนื้อใต้รักแร้ติดตัวมาอยู่นานม๊ากกกกก... ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กแล้ว แล้วมันก็ใหญ่ขึ้นๆทุกที หม่าม้าเคยชวนเค้าไปตัดอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ยอมไปสักที (สงสัยจะกลัวเจ็บ 😂) แล้วบางทีเค้าก็จะชอบเกาไปโดนจนมันเป็นแผลบ้าง ชอบดึงให้เรากับลูกหวาดเสียวเล่นบ้าง เพราะมันเริ่มใหญ่มาก..จนล่าสุดนี่ใหญ่กว่าหัวนมอีกอ่ะ555555

 


ผู้จัดการส่วนตัวอย่างเรา เห็นแล้วก็รำคาญแทน เลยนั่งหาข้อมูลการกำจัดติ่งเนื้อจนได้ค้นพบว่าเดี๋ยวนี้เค้าจี้ติ่งเนื้อออกโดยใช้เลเซอร์ (CO2 Laser) กันแล้วนะเออ ไม่ได้ใช้ไฟจี้ออกอย่างที่เราเข้าใจ (รู้สึกตัวเองล้าสมัยมากอ่ะ 😂😂)

 


ซึ่งข้อดีของการใช้เลเซอร์ในการตัดติ่งเนื้อก็คือความแม่นยำนั่นเองค่ะ เนื่องจากเลเซอร์มีความละเอียดและแม่นยำสูงมาก จึงสามารถเลือกตัดเฉพาะส่วนที่ต้องการได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ นอกจากนี้ นางยังมีผลในการหยุดเลือดบริเวณที่ตัดด้วย จึงทำให้แผลมีขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย และมีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยนั่นเองค่ะ

 


หลังจากหาข้อมูลเรื่องวิธีการจบไป ก็มาหาข้อมูลกันต่อว่าจะไปทำที่ไหนดี ที่ดูน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ว่าคนที่มาทำหัตการให้เราคือคุณหมอจริงๆ ไม่ใช่คุยกับหมอเสร็จ สุดท้าย..เอ่าา!! พยาบาลทำให้เฉยเลยงี้ จนในที่สุด หม่าม้าก็มาสะดุดตาอยู่ที่ AES Clinic เพราะหม่าม้าเห็นมีรีวิวเยอะมากก และทุกอย่างคุณหมอเป็นคนทำเองทุกเคสเลย เราก็เลยโอเคที่นี่แหละ!! ก็เลยแอดไลน์นัดวันกับคุณหมอทันที

 


AES Clinic ตั้งอยู่ใน The JAS รามอินทรา ชั้น 2 ค่ะ.... ขึ้นบันไดเลื่อนตรงทางเข้าด้านหน้ามาปุ๊บ คลินิกอยู่ทางซ้ายมือเล้ยย หาง่ายมากๆ


วันนี้อาโปขอติดตามมาดูปะป๊าด้วยนะครับ :)

 

พอมาถึงหน้าคลินิกก็จะมีคุณพยาบาลคนสวยมาคอยต้อนรับ และยืนวัดไข้พวกเรา 3 คนก่อนเข้าไปข้างในค่ะ



บรรยากาศข้างในค่อนข้างโล่งโปร่ง แม้จะเป็นคลินิกเล็กๆ แต่ดูเนี๊ยบและสะอาดมากๆเลยค่ะ


มาถึงเราก็มาลงทะเบียนตรงเคาน์เตอร์นี้ก่อนเลย




จากนั้นเราก็นั่งรอคิวกันสักพัก ระหว่างนี้อาโปตัวแสบเลยขอโพสต์ท่ารอสักหน่อย






ท่าทางอาโปดูไม่ค่อยอยากจะถ่ายรูปแหละ... หม่าม้าดูออก 😅




 

นั่งรอไม่นานก็ถึงคิวเราแล้วววว... เย่!!


ระหว่างคุยกับคุณหมอ คุณหมอก็ให้คำแนะนำดีมาก อธิบายวิธีการและขั้นตอนในการทำ รวมถึงการปฏิบัติตัวหลังจากทำเสร็จ



 

 

เห็นมั๊ยย.. ติ่งเนื้อใหญ่ม้ากก อันไหนติ่งเนื้อ อันไหนหัวนม?? 🤔


 

จากนั้น คุณหมอก็ให้ปะป๊าก็เข้าไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ารอที่ห้องเลเซอร์



ขั้นตอนหลังจากนี้ คุณหมอก็จะฉีดยาชาให้ (ถ้าติ่งเนื้อเล็กๆ คุณหมอจะใช้วิธีการทายาชาให้นะคะ ไม่ต้องฉีด) แล้วก็จี้ติ่งเนื้อออก... หม่าม้ากับอาโปก็เลยออกมานั่งรอกันข้างหน้า

 

นั่งรออยู่แป๊บเดียว... แบบแป๊บบบเดียวจริงๆอ่ะ ไม่ถึง 5 นาที เสร็จแล้ว!!

 

ขอแอบเข้าไปดูแผลหน่อยนะ :)




คือดีงามมากกก.. แผลเล็กนิดเดียวเอง ไม่มีเลือดไหลเลยด้วย

จากนั้น คุณพยาบาลก็จะมาทายา และแปะพลาสเตอร์เล็กๆไว้ให้ เป็นอันเสร็จ 😁

 

ซึ่งการปฏิบัติตัวหลังจากนี้ คุณหมอจะให้ขี้ผึ้งมาทา..ก็ทาไปทุกวัน

ห้ามโดนน้ำ 3 วัน (แต่ของปะป๊า คุณหมออนุญาตให้อาบน้ำได้ อาบเสร็จแล้วซับแผลให้แห้ง)

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เหงื่อออกมาก 2 สัปดาห์

หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 🌞

ห้ามแกะสะเก็ดแผล.... ประมาณนี้

 

 

หลังจากที่สอบถามปะป๊าว่าเป็นยังไงบ้างตอนทำ?? ปะป๊าบอกไม่เจ็บเลย มีนิดนึงตอนฉีดยาชาแค่นั้น

หลังจากหายชาก็ไม่เจ็บ แต่มีรู้สึกเสียวๆแบบรู้สึกว่าเป็นแผลนิดนึง

 

ตอนกลับบ้านมาก็มีเลือดซึมติดพลาสเตอร์มานิดหน่อย



 

อาโป ผู้ทายาให้ปะป๊าในทุกๆวัน ❤



 

 

สุดท้ายนี้ ใครอยากจะตามหม่าม้าไปทำบ้างก็จองคิวกับคุณหมอได้เลยนะคะ

ที่นี่คุณหมอใจดี พยาบาลน่ารัก บริการดีเริ่ด... ที่สำคัญราคาดีงามมากเว่อร์!! ❤

 

และนอกจากจี้ติ่งเนื้อแล้ว คุุณหมอยังให้บริการเสริมความงามอื่นๆอีกด้วยน้าาา... ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เลเซอร์กำจัดขน กำจัดไขมัน ฉีดสิว ปลูกผม etc. รวมไปถึงศัลยกรรมอย่าง เสริมจมูก ทำตา ทำคาง คุณหมอก็ทำด้วยเช่นกัน เรียกว่ามาที่นี่สวยครบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียวค่ะ 

 

และถ้าบอกว่ามาจาก 'เพจหม่าม้าขาเม้าท์' คุณหมอจะมีของแถม หรือส่วนลดพิเศษให้ด้วยน๊าา

 

 

ทางไปติดต่อคุณหมอ 👇👇

AES Clinic ชั้น 2 The Jas รามอินทรา

Tel : 095-254-5364, 02-011-0963

Line ID : @aesclinic  หรือกด แอดไลน์ ตรงนี้ได้เลยค่ะ

Inbox : https://m.me/aesclinic

IG : https://www.instagram.com/aesclinic

Website : www.aesclinic.com

FB : https://www.facebook.com/aesclinic/





บทความที่ใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

ทำยังงัยให้ได้ "ลูกชาย" ด้วย 5 วิธีนี้

ABOUT ME

I could look back at my life and get a good story out of it. It's a picture of somebody trying to figure things out.

SUBSCRIBE & FOLLOW

POPULAR POSTS

  • พาปะป๊าไปบอกลาติ่งเนื้อที่ AES Clinic
  • รีวิว IQAir Atem Car เครื่องฟอกอากาศในรถสุดคูลลล ❄
  • 5 เคล็ดลับ หยุดผมร่วงหลังคลอด..ไม่กลัวหัวล้าน
  • สร้างอากาศดีๆได้ง่ายๆ :)
  • รวม 4 นิทานสอนใจ (พ่อแม่) โดยนักเขียน 'โกมุนยอง' จากซีรี่ย์สุดฮิต It's Okay To Not Be Okay
  • เรื่องของผมหงอกที่(แม่)ไม่อยากบอกใคร 😥
  • บ๊ายบายแก้มย้อย! ด้วย Ultra HIFU Super Lift ที่ Dimension Clinic
  • ทำยังงัยให้ได้ "ลูกชาย" ด้วย 5 วิธีนี้
  • กอด จูบ ลูบคลำ ขี่หลังปลาโลมาที่ Pattaya Dolphinarium
  • ออกไปเล่นให้(แม่)​หายห่วง.. ด้วย Howdy Family ผลิตภัณฑ์​เพื่อทุกคนในครอบครัว

Categories

  • เม้าท์มอยซีรี่ย์ 1
  • เม้าท์ลูก 1
  • วิถีคุณแม่มือใหม่ 2
  • หม่าม้าพาเที่ยว 1
  • หม่าม้ารีวิว 6

Advertisement

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

About me

test

Duis autem vel eum iriure dolor in hendrerit in vulputate velit esse molestie consequat, vel illum dolore eu feugiat nulla

ค้นหาบล็อกนี้

Blog Archive

  • ►  2022 (1)
    • ►  มกราคม (1)
  • ▼  2020 (9)
    • ▼  ธันวาคม (1)
      • เรื่องของผมหงอกที่(แม่)ไม่อยากบอกใคร 😥
    • ►  พฤศจิกายน (2)
      • บ๊ายบายแก้มย้อย! ด้วย Ultra HIFU Super Lift ที่ Di...
      • ออกไปเล่นให้(แม่)​หายห่วง.. ด้วย Howdy Family ผลิต...
    • ►  ตุลาคม (1)
      • รีวิว IQAir Atem Car เครื่องฟอกอากาศในรถสุดคูลลล ❄
    • ►  สิงหาคม (4)
      • พาปะป๊าไปบอกลาติ่งเนื้อที่ AES Clinic
    • ►  กรกฎาคม (1)

Pages

  • Home
  • Shop
  • Blog
  • About
  • Contact
  • Download
  • FACEBOOK

Oddthemes

Designed by OddThemes | Distributed by Gooyaabi Templates